วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนครั้งที่ 2
วันพุธที่ 18 มกราคม 2560

ให้ออกไปปั้มการมาเรียนเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ฉันได้ดาวเด็กดีมา 1 ดวง เพราะอาจารย์ได้ให้นักศึกษาคนที่มาถึงห้องเรียนก่อนอาจารย์



เนื้อหาที่เรียน
ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ    แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ


1. กลุ่มเด็กที่มีลักษณะทางความสามารถสูง 
มีความเป็นเลิศทางสติปัญญา  เรียกโดยทั่ว ๆ ไปว่า “เด็กปัญญาเลิศ”

ลักษณะของเด็กปัญญาเลิศ
1.พัฒนาการทางร่างกายและจิตใจสูงกว่าเด็กในวัยเดียวกัน
2.เรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย 
3.อยากรู้อยากเห็นอย่างจริงจัง ชอบซักถาม 
4.มีเหตุผลในการแก้ปัญหา  การใช้สามัญสำนึก
5.จดจำได้รวดเร็วและแม่นยำ
6.มีความรู้ ใช้คำศัพท์เกินวัย
7.มีความคิดริเริ่ม มีวิธีการคิดและแนวคิดแปลกๆ
8.เป็นคนตื่นตัว เฉียบแหลม ว่องไว และช่างสังเกต 
9.มีแรงจูงใจ และมีความมานะบากบั่นมีความจริงจังในการทำงาน 
10.ชอบแสวงหาสิ่งท้าทายความคิดความอ่าน

2.  กลุ่มเด็กที่มีลักษณะทางความบกพร่อง  

1.เด็กที่บกพร่องทางสติปัญญา 
2.เด็กที่บกพร่องทางการได้ยิน 
3.เด็กที่บกพร่องทางการเห็น 
4.เด็กที่บกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ 
5. เด็กที่บกพร่องทางการพูดและภาษา 
6.เด็กที่บกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ 
7.เด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้ 
8. เด็กออทิสติก 
9. เด็กพิการซ้อน 

 เด็กที่บกพร่องทางสติปัญญา (Children with Intellectual Disabilities)
หมายถึง เด็กที่มีระดับสติปัญญา หรือเชาว์ปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยเมื่อเทียบเด็กในระดับอายุเดียวกัน 

มี 2 กลุ่ม คือ เด็กเรียนช้า และเด็กปัญญาอ่อน

เด็กเรียนช้า 
- สามารถเรียนในชั้นเรียนปกติได้ 
- เด็กที่มีความสามารถในการเรียนล่าช้ากว่าเด็กปกติ
- ขาดทักษะในการเรียนรู้ 
- มีความบกพร่องทางสติปัญญาเพียงเล็กน้อย 
- มีระดับสติปัญญา (IQ) ประมาณ 71-90 
สาเหตุของการเรียนช้า
1. ภายนอก
-เศรษฐกิจของครอบครัว
-การสร้างเสริมประสบการณ์ให้แก่เด็ก
-สภาวะทางด้านอารมณ์ของคนในครอบครัว
-การเข้าเรียนไม่สม่ำเสมอ
-วิธีการสอนไม่มีประสิทธิภาพ
2. ภายใน
-พัฒนาการช้า
-การเจ็บป่วย

เด็กปัญญาอ่อน แบ่งตามระดับสติปัญญา (IQ) ได้ 4 กลุ่ม
1. เด็กปัญญาอ่อนขนาดหนักมาก IQ ต่ำกว่า 20
- ไม่สามารถเรียนรู้ทักษะด้านต่าง ๆ ได้เลย 
- ต้องการเฉพาะการดูแลรักษาพยาบาลเท่านั้น
2. เด็กปัญญาอ่อนขนาดหนัก IQ 20-34 
-ไม่สามารถเรียนได้ ต้องการเฉพาะการฝึกหัดการช่วยเหลือตัวเองในกิจวัตรประจำวันเบื้องต้นง่าย ๆ
-กลุ่มนี้เรียกโดยทั่วไปว่า C.M.R (Custodial Mental Retardation)
3. เด็กปัญญาอ่อนขนาดปานกลาง IQ 35-49
- พอที่จะฝึกอบรมและเรียนทักษะเบื้องต้นง่าย ๆ ได้ 
- สามารถฝึกอาชีพ หรือทำงานง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้ความละเอียดลออได้ 
- เรียกโดยทั่วไปว่า T.M.R (Trainable Mentally Retarded) 
4. เด็กปัญญาอ่อนขนาดน้อย IQ 50-70 
-เรียนในระดับประถมศึกษาได้ 
-สามารถฝึกอาชีพและงานง่าย ๆ ได้ 
-เรียกโดยทั่ว ๆ ไปว่า E.M.R (Educable Mentally Retarded) 

ลักษณะของเด็กที่บกพร่องทางสติปัญญา
-ไม่พูด หรือพูดได้ไม่สมวัย
-ช่วงความสนใจสั้น วอกแวก
-ความคิด และอารมณ์ เปลี่ยนแปลงง่าย รอคอยไม่ได้
-ทำงานช้า
-รุนแรง ไม่มีเหตุผล
-อวัยวะบางส่วนมีรูปร่างผิดปกติ กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน
-ช่วยตนเองได้น้อยกว่าเด็กในวัยเดียวกัน


สิ่่งที่ได้รับ
        สาเหตุที่ทำให้เด็กบางคนมีความบกพร่องในด้านต่าง และลักษณะของอาการของคนที่มีความต้องการพิเศษในแบบต่างๆ 







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น